มหนุษย์เห็นแก่ตัว





ทำไมมนุษย์ถึงเห็นเเก่ตัว
มนุษย์ที่ใช้ชีวิตโดยปราศจากสตินั้นถูกชักจูงให้ประพฤติและแสดงพฤติกรรมโดยอคติ Bias และ ความคุ้นชิน ซึ่งสิ่งเป็นผลพวกมาจาก ทัศนคติ และ พื้นฐานในอดีตนั่นเอง

ทำไมมนุษย์จึงเห็นแก่ตัว ทำไมถึงเอาเปรียบ
สาเหตุมันมาจากการ "ให้คุณค่า" ของส่ิงหนึ่งส่ิงใดซึ่งส่วนใหญ่คือคุณค่าภายใน และคุณค่าภายในนี้แหละเป็นสิ่งที่ทำให้ความเห็นแก่ตัว หรือ พฤติกรรมเอาเปรียบนั้น รุนแรงมากกว่าความเป็นจริง

เวลา 1นาที ก็คือ 1นาทีเท่ากัน แต่ทำไม เราให้คุณค่าของเวลา 1นาทีต่างกัน
1นาทีที่อาจช่วยคนรักที่จะตายให้รอดได้ 1นาทีของการเดินถนนไปเล่น Socialไป
เมื่อถึงเวลาคนแรกหรือคนที่สองจะเห็นแก่ตัวมากกว่ากัน?
เอาล่ะ ถ้าทำความเข้าใจตรงนี้ได้ก่อนว่ามันเป็นปกติของมนุษย์ถึงจะเข้าใจย่อหน้าต่อไป

ย่อหน้าที่แล้วมันอาจฟังสมเหตุสมผลใช่ไหมที่คนที่ช่วยเหลือคนที่ตัวเองรักจะยอมทำทุกอย่าง แม้ว่ามันจะเอาเปรียบหรือต้องเห็นแก่ตัวก็ตาม... ทีนี้ลองมามองโลกความเป็นจริงบ้าง
เช่นกัน เมื่อเราให้คุณค่ากับสิ่งหนึ่งๆมากพอ เราก็พร้อมที่จะแสดงพฤติกรรมเห็นแก่ตัวเช่นกัน ไม่ว่าเรื่องๆนั้นๆมันจะสมเหตุสมผล หรือ make sense กับคนอื่นหรือไม่

เวลา 5นาทีของผมมีค่า ผมรีบจะไปทำธุระต่อ ผมขอแซงคิวก่อน เพราะเวลา 5นาทีของคุณมันไม่มีค่าเท่าผม คุณ "รอได้"

ใช่ครับ รอได้ อาจจะใช่ หรือ ไม่ แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากต้นกำเนิดเดียวกันคือ การให้คุณค่าของสิ่งหนึ่งของตัวเอง มากกว่าของคนอื่น ทำไมคนๆนึงทำมาหากินสุจริตเหนื่อยยากทำงาน กับอีกคนที่ลักขโมย คดโกง เพราะเขาให้คุณค่าของสิ่งที่ได้มา มากกว่าสิ่งที่คนอื่นต้องเสีย ถ้าเรารับรู้ถึงคุณค่าที่คนอื่นต้องแลกมาด้วยการได้รับของเราได้เข้าใจมากพอ เราจะพบว่า "เรานั้นไม่อยากเอาเปรียบคนอื่นเลย" เรายอมทำงานเหนื่อยยากเพื่อให้ได้เงิน แทนที่จะไปโกงเงินของคนอื่นที่ หามาได้เหนื่อยยากเหมือนกัน

อีกเคสหนึ่งที่ชัดเจนคือ โกงคนรวยไม่เป็นไร เงินแค่นี้ แค่เศษตังเค้า เงินจำนวนนี้อาจจะเป็นส่วนน้อยของที่คนรวยเขามีจริง แต่เพราะการที่คนขี้โกงนั้นๆ ให้คุณค่าของเงินคนรวย น้อยกว่าผลประโยชน์ของตัวเองเลยเอาเปรียบตรงนี้เพื่อให้ได้มา

ทีนี้เราก็ทราบแล้วว่าการให้คุณค่านั้นส่งผลให้คนแสดงพฤติกรรมเอาเปรียบเพื่อให้ได้มา แล้วทำไมล่ะคนถึงให้คุณค่ากับอะไรแบบนั้น

เมื่อคนเราขาดสติ อคติจะเริ่มบังตา และทัศนคติกับเรื่องราวในอดีตจะพาเราไป
อคติของเราที่ "กลัวการสูญเสีย" พบว่าคนเรานั้นหวงแหน และ กลัวการสูญเสีย เมื่อคนเราพบว่าเรากำลังจะเสียอะไรไป สิ่งนั้น "จะมีค่าขึ้นมาทันที" เมื่อคนเราเริ่มให้คุณค่ากับมัน เราก็จะเห็นแก่ตัว

อคติของเราที่ "เป็นของ ของเรา" พบว่าอะไรก็ตามที่เป็นของเรา เราจะให้ความสำคัญ และ ให้คุณค่า มากกว่าของคนอื่นๆเสมอ และเมื่อเราให้คุณค่ามันมากกว่า เราก็จะเห็นแก่ตัว

อคติของเราที่ "โหยหา อยากได้ อยากมี" พบว่าเมื่อเราเริ่มโหยหาในสิ่งใด หรือ ปรารถนาในสิ่งใด แล้วยังไม่สมปรารถนา อคตินั้นจะสั่งใจให้เรา ให้คุณค่าสิ่งนั้นๆ ด้วยความที่ตัวเองนั้น "ไม่อาจมี" หรือ "ไม่อาจมีได้" และเมื่อเราให้คุณค่ามันมากขึ้น เราก็จะเห็นแก่ตัว

อคติของเราที่ "คิดว่าไม่เป็นไร" บางครั้งเราอาจจะไม่ได้ให้คุณค่าของสิ่งใดเลิศเลอขึ้น แต่เราให้คุณค่าของคนอื่นน้อยเกินไป เมื่อเราให้คุณค่ากับคนอื่นน้อยเกินไป ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าในความถูกต้อง คุณค่าในความรู้สึก ด้วยคำว่าเล็กน้อย ไม่เป็นไร เราก็จะเห็นแก่ตัว

อคติของเราที่ "เป็นผู้มีอำนาจ" เมื่อเป็นผู้มีอำนาจมากพอที่ไม่มีใครกล้าต่อรอง และเราได้ให้ความสำคัญกับอำนาจตนเอง ความต้องการของตนเองมากกว่าความเป็นถูกต้องหรือความเป็นคนของผู้อื่น โดยปราศจากการทักท้วงจากผู้ที่ด้อยอำนาจกว่า เนื่องจากไม่บังอาจ หรือ ไม่บังควร เมื่อเป็นอย่างนั้น เราก็จะเห็นแก่ตัว

อคติของเราที่ "ไม่เรียนรู้ว่าตัวเราเองมี อคติ" ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความประพฤติไม่ได้ต่างๆ บ่อเกิดแห่งการกระทำ แนวคิดทัศนคติต่างๆ ความไม่มีสติ และเมื่อเราขาดสติ ขาดความเข้าใจ แยกแยะในอคติของตน เมื่อนั้น เราก็จะเห็นแก่ตัว...
https://storylog.co/story/5938ecd564959e6828e832ed

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ดาราศาสตร์